ว่าด้วยเรื่องการเตรียมตัวเดินทางไปต่างประเทศ แต่ทำไมต้องเอามาบอกกันด้วย เรื่องราวง่าย ๆ แบบนี้ จริง ๆ มันขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของใครของมันไม่ใช่หรือ แค่เราอยากเอาของที่เราอยากเอาไปด้วยกับเอกสารสำคัญที่จำเป็นแค่นั้นก็น่าจะเพียงพอแล้ว ใช่ครับ สำหรับผู้เชี่ยวชาญที่เดินทางท่องเที่ยวแทบจะทุกอาทิตย์ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่สำหรับมือใหม่ที่พึ่งตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวล่ะ คงจะเป็นกังวลน่าดู เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลย

1. ลิสต์สถานที่ที่อยากไป
เริ่มต้นด้วยการระดมสมองกับเพื่อนร่วมทริป ลิสต์ที่เที่ยวหรือเมืองที่อยากไป โดยเรียงลำดับความสำคัญตั้งแต่สถานที่ที่จะต้องไปให้ได้ ลงมาถึงสถานที่ถ้าไปไม่ทันจริง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องไป จากนั้น ให้เช็กข้อมูลของแต่ละสถานที่ เช่น วันและเวลาเปิด-ปิด แล้วแพลนระยะเวลาที่ต้องใช้ รวมถึงค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ในการไปแต่ละที่ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้เลือกสถานที่ที่เหมาะกับสไตล์การท่องเที่ยวของกลุ่ม เช่น สายผจญภัย สายชิล สายถ่ายรูป เป็นต้น และอย่าลืมเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางระหว่างสถานที่ด้วย
2. ปักหมุดบนแผนที่ Google
เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะเดินทางไปที่ไหน ให้ปักหมุดสถานที่ที่เราต้องการไปลงบนแผนที่ Google เพื่อตรวจสอบที่ตั้งและดูภาพรวมของสถานที่ ตลอดจนวิเคราะห์ระยะทาง เพื่อที่จะได้สามารถวางแผนการเดินทางและการบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถใช้ฟีเจอร์ “My Maps” ในการจัดกลุ่มสถานที่ แล้วแยกตามสีหรือหมวดหมู่เพื่อให้ดูง่ายขึ้นได้อีกด้วย
3. กำหนดวันและช่วงเวลาในการเดินทาง
สิ่งสำคัญที่สุดในการวางแผนเที่ยว คือการกำหนดวันและช่วงเวลาในการเดินทาง เพื่อที่จะได้พิจารณาสถานที่ที่เหมาะสมกับปัจจัยต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น ๆ เช่น ฤดูท่องเที่ยว สภาพอากาศ และสามารถกระจายสถานที่ท่องเที่ยวได้ครบถ้วนตามความต้องการ แนะนำให้เลือกช่วงเวลาที่มีวันหยุดต่อเนื่อง จะได้มีเวลาเที่ยวมากขึ้น และควรเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางกรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันด้วย เช่น เครื่องบินดีเลย์ ไฟลต์เลื่อน ลืมของ ฯลฯ
4. จัดกลุ่มสถานที่ที่อยู่ใกล้เคียงกัน
จัดกลุ่มสถานที่ที่อยู่ใกล้เคียงกัน แล้วเก็บลิสต์สถานที่บริเวณนั้นให้ครบก่อนจะเดินทางไปต่อยังที่อื่น เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้มากขึ้น แนะนำให้ศึกษาเส้นทางและวิธีการเดินทางล่วงหน้า จะได้รู้ว่าสถานที่ไหนอยู่ใกล้กันบ้าง และควรไปที่ไหนก่อนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินทางแบบวกไปวนมา
5. วางแผนการเดินทางคร่าว ๆ ในชีท
เมื่อได้แพลนเที่ยวคร่าว ๆ แล้ว ให้ใส่แพลนเหล่านั้นลงไปในชีท โดยระบุวัน เวลา สถานที่ กิจกรรม และวิธีการเดินทาง แล้วแชร์ให้เพื่อนร่วมทริปช่วยกันตัดสินใจ พร้อมปรับแก้ให้ลงตัว ถูกใจทุกคนในทริป ป้องกันการเกิดปัญหาในการเดินทางภายหลัง แนะนำให้เผื่อวันว่างสำหรับช้อปปิ้ง พักผ่อน หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ แบบสบาย ๆ ไม่ต้องเร่งรีบด้วย
6. จองตั๋วเครื่องบิน
แนะนำให้จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน หรือ 1 ปี เพื่อที่จะได้ตั๋วราคาถูก แต่ก่อนตัดสินใจจอง ควรเช็กราคาและเปรียบเทียบโปรโมชันจากหลาย ๆ สายการบินก่อน เพื่อให้ได้ราคาตั๋วที่คุ้มค่ามากที่สุด พร้อมตรวจสอบเงื่อนไขการจองว่าสามารถเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกภายหลังได้หรือไม่ และที่สำคัญ เลือกจองกับเว็บจองตั๋วเครื่องบินที่น่าเชื่อถือ มีระบบการชำระเงินที่ปลอดภัย
7. จองที่พัก
เมื่อมีตั๋วเครื่องบินแล้วก็ต้องมีที่พัก! แนะนำให้เลือกประเภทที่พักที่เหมาะกับสไตล์การท่องเที่ยว เช่น โรงแรม โฮสเทล หรือเกสต์เฮาส์ หากอยู่ใกล้สถานีรถไฟจะดีมาก จะได้สะดวกต่อการเดินทาง โดยก่อนเลือกที่พัก ควรเปรียบเทียบราคา รีวิว และสิ่งอำนวยความสะดวกหลาย ๆ ที่เพื่อให้ได้ที่ที่ดีที่สุด และควรจองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะหากจะเดินทางในช่วงไฮซีซัน เพราะช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะเยอะและราคาที่พักอาจสูงเป็นพิเศษ
8. ศึกษาข้อมูลการเดินทางอย่างละเอียด
ควรหาข้อมูลการเดินทางเพื่อวางแผนเที่ยวล่วงหน้า โดยเลือกวิธีการเดินทางที่สะดวกและคุ้มค่าที่สุด เช็กราคา ตารางเวลา ตลอดจนวิธีการจองตั๋วให้เรียบร้อย และพยายามอย่าให้ตารางแน่นจนเกินไป เพราะในการเดินทางอาจจะเกิดความล่าช้าหรือไม่เป็นไปตามที่เราตั้งใจเอาไว้ก็ได้
จองบริการรับ-ส่งสนามบินล่วงหน้า
9. ซื้อบัตรล่วงหน้า
หากบัตรไหนสามารถซื้อล่วงหน้าได้ก็แนะนำให้ซื้อไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นตั๋วโดยสาร ตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ หรือบัตรอื่น ๆ พร้อมเช็กโปรโมชัน ส่วนลดต่าง ๆ และเงื่อนไขการใช้งานบัตรให้ดีด้วย เพื่อประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากที่อาจเกิดขึ้นหน้างาน
10. คำนวณค่าใช้จ่าย
เมื่อวางแผนการเดินทางแบบเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ให้ลองคำนวณเงินที่ต้องใช้คร่าว ๆ ดู ทั้งค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ และเตรียม Pocket Money เพิ่มเติมเผื่อไว้สำหรับช้อปปิ้งหรือกรณีฉุกเฉิน โดยก่อนเดินทาง ให้แลกเงินสกุลท้องถิ่นไปให้เพียงพอต่อความต้องการ หากมีบัตรเครดิตก็ให้เตรียมไว้สำหรับใช้ที่ต่างประเทศได้ด้วย
11. ซื้อประกันเดินทาง
ซื้อประกันการเดินทางเพื่อลดความเสี่ยง เพิ่มความปลอดภัย และคุ้มครองกรณีฉุกเฉิน โดยควรเลือกประกันที่เหมาะกับประเภทการท่องเที่ยว ระยะเวลา สถานที่ และความคุ้มครองที่ตอบโจทย์ ก่อนซื้อ แนะนำให้เปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองจากหลาย ๆ บริษัท พร้อมตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์อย่างละเอียด แล้วจึงค่อยตัดสินใจ
12. เตรียมข้อมูลประเทศปลายทาง
ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศที่กำลังไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อกำหนด ข้อบังคับ สิ่งของห้ามนำเข้า ตลอดจนวัฒนธรรมและธรรมเนียมปฏิบัติของสถานที่นั้น ๆและอย่าลืมเตรียมเอกสารสำคัญ เช่น พาสปอร์ต วีซ่า ใบจองตั๋วเครื่องบิน และใบจองที่พักไปด้วยเพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

